ข่าว

การเลือกท่อความร้อนไฟฟ้า

Update:29-09-2021
Summary: 1. สแตนเลส 304 เป็นเหล็กที่ลูกค้าทั่วไปนิยมใช้กันมากที่สุด สภาพแวดล้อมการทำงานโดยทั่วไปแบ่งออกเป็นการเผาไหม...
1. สแตนเลส 304 เป็นเหล็กที่ลูกค้าทั่วไปนิยมใช้กันมากที่สุด สภาพแวดล้อมการทำงานโดยทั่วไปแบ่งออกเป็นการเผาไหม้แบบแห้งและการทำความร้อนด้วยของเหลว เช่น หากเป็นการเผาแบบแห้ง จะใช้ในเตาอบและเครื่องทำความร้อนแบบท่อ สามารถทำจากเหล็กคาร์บอนหรือสแตนเลส 304 ถ้าเป็นของเหลวให้ความร้อน ถ้าเป็นน้ำ ให้ใช้ท่อความร้อนไฟฟ้าสแตนเลส โดยทั่วไปสแตนเลสนี้ทำจากสแตนเลส 304 หากเป็นน้ำมันก็สามารถทำจากเหล็กกล้าคาร์บอนหรือสแตนเลส 304 ได้ หากมีของเหลวที่เป็นกรดและด่างอ่อน ๆ ก็สามารถใช้สแตนเลส 316 ได้ หากมีกรดแก่ในของเหลว ควรใช้ท่อสแตนเลส 316, โพลีเตตราฟลูออโรเอทิลีน หรือแม้แต่ไทเทเนียม
2. กำหนดกำลังของท่อทำความร้อนตามสภาพแวดล้อมการทำงาน
การตั้งค่าพลังงานส่วนใหญ่จะให้ความร้อนแบบแห้งท่อความร้อนไฟฟ้าและการทำความร้อนของเหลว สำหรับการทำความร้อนแบบแห้ง โดยทั่วไปจะใช้ท่อยาว 1 เมตรสำหรับ 1KW และของเหลวทำความร้อนโดยทั่วไปจะเป็นท่อยาว 1 เมตรสำหรับ 2-3KW และสูงสุดไม่เกิน 4KW
3. เลือกรูปร่างของท่อทำความร้อนตามอุปกรณ์ทำความร้อนไฟฟ้าของลูกค้า
รูปร่างของท่อความร้อนสแตนเลสมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งที่ง่ายที่สุดคือก้านตรง รูปตัว U และรูปทรงพิเศษ สำหรับเงื่อนไขเฉพาะจะใช้ท่อความร้อนไฟฟ้าที่มีรูปร่างเฉพาะ
4. กำหนดความหนาของผนังท่อทำความร้อนตามการใช้งานท่อทำความร้อนของลูกค้า เส้นโค้งประสิทธิภาพของการคำนวณกำลังของท่อความร้อน โดยทั่วไปความหนาของผนังของท่อทำความร้อนคือ 0.8 มม. แต่ตามสภาพแวดล้อมการทำงานของท่อทำความร้อน เช่น แรงดันน้ำสูง ในกรณีนี้ จำเป็นต้องใช้ท่อสแตนเลสไร้รอยต่อที่มีผนังหนาขึ้นเพื่อทำให้ ท่อความร้อนไฟฟ้า
5. ถามให้ชัดเจนว่าเหตุใดท่อทำความร้อนภายในจำนวนมากที่ทำจากท่อความร้อนจึงมีลักษณะคล้ายกัน แต่ราคาจะมีข้อผิดพลาดใหญ่หรือไม่ นั่นคือวัสดุภายในภายใน วัสดุภายในที่สำคัญที่สุดสองชนิดคือผงฉนวนและลวดโลหะผสม ผงฉนวน วัตถุที่ไม่ดีจะใช้ทรายควอทซ์ และวัตถุที่ดีจะใช้ผงแมกนีเซียมออกไซด์ดัดแปลงที่เป็นฉนวน นอกจากนี้ลวดโลหะผสมโดยทั่วไปคือเหล็ก - โครเมียม - อลูมิเนียม และลวดโลหะผสมนิกเกิล - โครเมียมสามารถใช้ได้ตามความต้องการและเกรดของการผลิตท่อ ตามที่พูดไป คุณจะได้รับสิ่งที่คุณจ่ายไป แนะนำว่าลูกค้าอย่าโลภของถูกเพื่อที่จะได้ไม่ซื้อสินค้าด้อยคุณภาพ